เครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอม
เนื่องจากผู้กระทำผิดในธุรกิจประเภทนี้มีทั้งที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่ เข้ามากระทำการในประเทศไทย โดยบุคคลทั้ง 2 กลุ่มนี้จะมีขั้นตอนการทำงานและวางแผนอย่างเป็นระบบ ซึ่งที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้เคยจับกุมชาวต่างชาติกรณีใช้บัตรเครดิตปลอม โดยใช้วิธีขโมยข้อมูลบัตรเครดิตผ่านทางสายโทรศัพท์ (wire tapping) ของบุคคลอื่น เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจะใช้เครื่องแปลงข้อมูลลงในบัตรใหม่ โดยมีการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนปลอมหรือหนังสือเดินทางปลอมใช้ควบคู่กับ บัตรเครดิตที่ปลอมขึ้นและนำไปใช้ในทางทุจริต มีข้อมูลตัวเลขความเสียจากการปลอมแปลงบัตรเครดิตในประเทศอังกฤษ จากองค์กรชื่อ APAC ซึ่งเป็นองค์กรทางด้านธุรกรรมทางการเงินได้สรุปรายงานล่าสุดออกมาเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากบัตรปลอมที่ทำขึ้นเลียนแบบบัตรจริงที่ออกโดยหน่วยงานในประเทศอังกฤษ ตัวเลขในรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงมูลค่าความเสียหายในปี พ.ศ. 2552ที่เกิดขึ้นภายในประเทศอังกฤษมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2551 19% หรือคิดเป็น36.9 ล้านปอนด์ ในขณะที่มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 17% หรือคิดเป็น 132.9 ล้านปอนด์ (รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จาก www.cardwatch.org.uk )จากปัญหาดังกล่าวเนคเทคจึงได้วิจัยพัฒนา “เครื่องตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม” ขึ้น
“เครื่องตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม” เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งจากผลงานวิจัยของหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ นำโดย ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร และ นายยุทธนา อินทรวันณี ที่ได้ผสมผสานความรู้ทางด้านแสง อิเล็กทรอนิกส์ และ ซอฟท์แวร์ เข้าด้วยกัน ทั้งยังได้จดสิทธิบัตรคุ้มครอง และ มีผลการทดสอบที่เป็นที่ยอมรับในวงการวิชาการระดับสากลในวารสารวิชาการ Applied Optics เดือน ธันวาคม 2552 และ กุมภาพันธ์ 2553
เครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอมที่ทางหน่วยฯ ได้พัฒนาขึ้นสามารถตรวจสอบตัวบัตรเครดิตได้ว่าเป็นบัตรเครดิตจริงหรือปลอม โดยไม่ต้องตรวจสอบข้อมูลที่เก็บอยู่ในภายแถบแม่เหล็กหรือชิป ทำให้ปราศจากข้อกังวลในเรื่องการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เครื่องตรวจบัตรเครดิตรุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบในงานแสดงสินค้า ComMart โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (KTC) มาแล้ว ปัจจุบันหน่วยงานตรวจสอบบัตรเครดิตของบริษัท บัตรกรุงไทย (มหาชน) จำกัด และของธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีเครื่องรุ่นนี้ไว้ใช้แล้ว นอกจากนี้ทางหน่วยฯ ยังได้ขายสิทธิ์การผลิตให้แก่บริษัท นิวเวฟไอเดียส์ จำกัด เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป อนึ่งสำหรับบัตรเครดิตปลอมที่ตรวจสอบได้หมายถึงบัตรเครดิตที่ตัวบัตรเป็นของปลอม ไม่ใช่บัตรเครดิตจริงที่ถูกขโมยมา
คุณสมบัติเบื้องต้น:
ชนิดของบัตรเครดิต | VISA, MasterCard |
ความถูกต้อง | 100% |
เวลาที่ใช้ในการตรวจ | < 0.5 วินาที |
ขนาด (กxยxส) | 9x17x10 ซม.3 |
แรงดันไฟฟ้าที่ต้องการ | 9-15 VDC, 1000 mA |
ลักษณะเด่น: ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ประหยัดพลังงาน
การใช้งาน: เพียง เปิดเครื่องฯ จากนั้นเสียบบัตรเครดิตที่ต้องการตรวจสอบเข้าช่องเสียบบัตร แล้วสังเกตหน้าจอแสดงผล หลังจากที่ระบบประมวลผลเสร็จ ตัวอักษรสีเขียวจะปรากฏบนหน้าจอ สำหรับกรณีบัตรเครดิตที่ตัวบัตรเป็นของจริง แต่จะปรากฏเพียงแถบสีเขียวหรือหน้าจอว่างกรณีที่ตัวบัตรเป็นของปลอม
ทำไมต้องตรวจสอบบัตรเครดิตด้วยเครื่องตรวจบัตรเครดิต? จริงๆ แล้วบัตรเครดิตทั้งของ VISA และ MasterCard มีเอกลักษณ์ที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าสำหรับใช้จำแนกบัตรเครดิตจริงออกจากบัตรเครดิตปลอมอยู่ 5 ตำแหน่ง ดังนี้
- ชื่อผู้ถือบัตร และ ตัวเลข 16 หลัก ซึ่งบ่งบอกชนิดของบัตร และ หน่วยงานที่เป็นผู้ออกบัตรให้
- สัญลักษณ์ของบัตรเครดิต เช่น VISA และ MasterCard ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง
- บริเวณเก็บข้อมูล เช่น แถบแม่เหล็ก และ ชิป รวมไปถึงตัวเลข 3 หลัก ที่อยู่ด้านหลังบัตรเครดิต
- ฮอโลแกรม หรือ รูปที่พิมพ์อยู่บนแถบโลหะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีหรือรูปร่างไปมาได้เมื่อมุมของการสังเกตหรือมุมของแสง เปลี่ยนไป สำหรับบัตร VISA จะเป็นรูปนก ส่วนบัตร MasterCard จะเป็นรูปลูกโลก
- ภาพเรืองแสงบนตัวบัตรเมื่อมีแสงแบล๊คไลท์ส่่องไปยังตัวบัตร
เอกลักษณ์ภายนอกที่ได้จากบัตรเครดิตจริง | เอกลักษณ์ภายนอกที่ได้จากบัตรเครดิตปลอม |
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้ส่งผลให้เอกลักษณ์เหล่านี้ปรากฏอยู่บนตัวบัตรเครดิตปลอมเช่นกัน เพียงแต่ส่วนใหญ่จะมีรายละเอียดในระดับไมโครเมตรหรือนาโนเมตรที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเกินความสามารถของตามนุษย์ที่จะแยกแยะความแตกต่างนี้ได้ เนื่องจากแสงมีความถี่สูง หรือ ความยาวคลื่นต่ำ ในระดับนาโนเมตร เครื่องตรวจบัตรเครดิตที่ใช้การผสมผสานความรู้สามแขนงเข้าด้วยกันตามที่ได้อธิบายข้างต้น จึงสามารถแยกแยะความแตกต่างเบื้องต้นและแสดงให้เห็นได้ว่าตัวบัตรเครดิตที่ กำลังตรวจสอบนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น